** ทุกคนได้เรียนรู้มาอย่างเดียวกันว่า… ในวันหนึ่งวันของเรา มี 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคน**
เราก้อเรียนรู้มาไม่ต่างกันว่าในวันหนึ่งวันของเราน่ะมี 24 ชั่วโมงเท่ากับคนอื่นๆ
แต่ก้อรู้อีกว่ามีคนไม่กี่คนนักหรอกที่จะรู้จักใช้ชีวิตในวันหนึ่งๆได้คุ้มค่าสมกับที่ธรรมชาติสรรสร้างมาให้
…………………………………….
เอาเป็นว่าเราแค่อยากจะบอกว่า**
เราก้อเป็นคนนึงที่คิดว่าใช้วันหนึ่งวันของตัวเองได้คุ้มค่ามากมาย
………..แต่……………
วันนี้ได้รู้ว่ามันไม่ใช่!!!!
ตั้งแต่เด็กมาแล้ว ชีวิตอยู่ไปวันๆๆไอ้วันๆๆของเราเนี้ยมันไม่ใช่ปล่อยชีวิตผ่านไปวันๆๆโดยไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
มันคือ…
ชีวิตที่ทำไมเราต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้ ทำไมเราไม่สามารถบอกกับตัวเองได้ว่า
หยุดสักทีดิ..
ความจริงก้อไม่ได้ต้องทำอะไรมากมายนักหรอก แต่ที่มันไม่หยุดก้อคือความคิดนี่สิ
วันวันไม่ได้คิดอะไรมีสาระเท่าไร แต่อยากคิด จนปัจจุบันก้อยังเป็นอยู่
แต่เปลี่ยนไปเล็กน้อย อาจเพราะความคิดมันเปลี่ยนไปตามอายุ ไม่อยากยอมรับเล้ยว่าอายุเยอะ
แต่เอาว่ะ มันก้อมากขึ้นจริงๆ
ตอนเด็กๆเวลา 24 ชั่วโมงใช้นอนเนี้ยคุ้มมาก หาประสบการณ์ไม่ค่อยเท่าไหร
แต่….ไม่เสียใจหากมองกลับไปในอดีต
ไม่มีคำที่ผุดขึ้นมาว่า " หากย้อนเวลากลับไปได้ จะทำนั่นทำนี่"
เอาเหอะ …ชีวิตมีสีและสัน
**************************
ชีวิตตอนนี้ กลับคิดว่าทำอะไรดูคุ้มค่ากับเวลาต่อวันเกินไป
ด้วยความที่ไม่รู้จักพอ
ทำให้..รู้สึกว่าเวลาที่ธรรมชาติให้มามันน้อยเกินไป วันหนึ่งวันแทบจะทำอะไรต่อมิอะไรที่ตั้งใจไว้ไม่ค่อยทัน
นอนดึกดื่น ตื่นแต่เช้า แต่ก้อยังไม่ทันสักอย่าง
แต่แล้ว..
ความจริง จากจิตใต้สำนึกก้อตะโกนบอกกันสุดสุด
ว่า…………
รู้จักมั้ย " แบ่งเวลา " น่ะ
แฮะ แฮะ ก้มหน้าผงกหัวหงึกหงักรับผิดกับตัวเองสุดชีวิต พร้อมกับหมดหนทางต่อกรต่อคำปรารภนั้น
ใช่..
เราแบ่งเวลาไม่เป็น
เวลาเดินเร็ว ไม่เคยรอ ไม่เคยย้อนกลับ ไม่เคยช่วยอะไรได้เลย
ทั้งๆที่ใครหลายคนอาจเข้าใจว่าเวลาจะคอยเยียวยาได้ทุกอย่าง
แต่
มันคือ การให้กำลังใจตัวเองเท่านั้น หรือจะบอกว่าหลอกตัวเองก้อว่าได้นะ
ตอนนี้ไม่อยากจะบอกเลยว่า เพิ่งจะคิดจัดสรรเวลาในการใช้ชีวิตเอาตอนอายุเลขนี้ ( … )
แล้วจากนี้ไปก้อจะใช้ชีวิตกับ 24 ชั่วโมงให้คุ้มที่สุด
แต่ก้อยังแอบดีใจ แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังใช้เวลาไม่เป็นแต่เรียกได้ว่าคุ้ม…